กลุ่ม ปตท. จ.ระยอง ร่วมทำนุบำรุงศาสนา จัดพิธีทอดกฐินและถวายผ้าป่าสามัคคี ประจำปี 2563 จำนวน 20 วัด รวมปัจจัยทำบุญทั้งสิ้น 4,812,037.50 บาท
กลุ่ม ปตท. จังหวัดระยอง กลุ่ม ปตท. จังหวัดระยอง อันประกอบด้วย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) และชาวชุมชนในพื้นที่ ร่วมเป็นเจ้าภาพในการทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2563 จำนวน 3 วัด ได้แก่ วัดชลธาราม (พยูน) วัดโสภณวนาราม และวัดชากลูกหญ้า และร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี วัดละ 50,000 บาท จำนวน 17 วัด ได้แก่ วัดประชุมมิตร วัดห้วยโป่ง วัดเนินกระปรอก วัดตากวน วัดบ้านฉาง วัดโขดหิน วัดหนองแฟบ วัดมาบชลูด วัดซอยคีรี วัดหนองผักหนาม วัดมาบตาพุด วัดมาบข่า วัดกระเฉท วัดภูดรนิ่มเสนาะ วัดคีรีภาวนาราม วัดกรอกยายชา และวัดเขาไผ่ รวมปัจจัยทำบุญทั้งสิ้น 4,812,037.50 บาท เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของชาวพุทธ และส่งเสริมอัตลักษณ์พื้นถิ่นของชาวระยองให้คงอยู่สืบไป
นายวิสุทธิ์ หนูงาม ประธานอนุกรรมการชุมชนสัมพันธ์และการสื่อความ กลุ่ม ปตท. จังหวัดระยอง เปิดเผยว่า การทอดกฐินสามัคคี กลุ่ม ปตท. จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ระหว่างเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน ณ วัดต่างๆ ในพื้นที่ชุมชนเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด เทศบาลตำบลมาบข่าพัฒนา เทศบาลตำบลบ้านฉาง และเทศบาลเมืองบ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยในปี 2563 นี้ กลุ่มปตท. ร่วมกับชุมชน เป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี จำนวน 3 วัด ได้แก่ วัดชลธาราม (พยูน) วัดโสภณวนาราม และวัดชากลูกหญ้า และร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี วัดละ 50,000 บาท จำนวน 17 วัด ได้แก่ วัดประชุมมิตร วัดห้วยโป่ง วัดเนินกระปรอก วัดตากวน วัดบ้านฉาง วัดโขดหิน วัดหนองแฟบ วัดมาบชลูด วัดซอยคีรี วัดหนองผักหนาม วัดมาบตาพุด วัดมาบข่า วัดกระเฉท วัดภูดรนิ่มเสนาะ วัดคีรีภาวนาราม วัดกรอกยายชา และวัดเขาไผ่ โดยมุ่งมั่นที่จะสืบสานประเพณีอันดีงามให้อยู่คู่ท้องถิ่นจังหวัดระยอง กอปรกับเป็นการสร้างสัมพันธ์อันดี รวมทั้งสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม แบ่งปันสิ่งดีๆ สู่สังคม มุ่งเน้นการอยู่ร่วมกับชุมชนด้วยความผาสุข โดยกลุ่มปตท. และผู้มีจิตศรัทธาร่วมสนับสนุนปัจจัยรวมทั้งสิ้น 4,812,037.50 บาท
สำหรับไทยธรรมที่ถวายพร้อมผ้ากฐินนั้น คือ เครื่องที่เป็นบริขารสำหรับถวายเป็นบริวารของกฐิน ในครั้งพุทธกาลมุ่งประโยชน์ทางพระวินัยเป็นหลัก จึงนำแต่ผ้าไปถวายเท่านั้น เมื่อแล้วเสร็จจึงจัดการฉลองกาลกฐินในภายหลัง แต่ในปัจจุบัน เป็นที่นิยมกันทั่วไปว่าการทอดถวายกฐินจะต้องมีบริวารกฐินด้วย จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับศรัทธาของผู้ถวาย สำหรับปัจจัยที่ถวายนั้นมุ่งเน้นประโยชน์ในการนำไปก่อสร้างซ่อมแซมทำนุบำรุงศาสนสถาน เพื่อการใช้ประโยชน์ทางพระพุทธศาสนาต่อไป