จิบกาแฟ แคร์โลก

กาแฟ เครื่องดื่มยอดนิยมที่ประกอบด้วย คาเฟอีน เป็นสารช่วยกระตุ้นให้ผู้ที่ดื่มกาแฟเข้าไปนั้นรู้สึกสดชื่น ตื่นตัว กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ที่ต้องการความกระปรี้กระเปร่าในการทำงานและการกระตุ้นสมองให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งใครหลายๆ คนดื่มเป็นประจำทุกวัน และบางคนอาจจะดื่มวันละหลายแก้ว กาแฟจึงเป็นเครื่องดื่มที่มีการบริโภคกันอย่างกว้างขวางทั่วโลก ซึ่งสิ่งที่หลงเหลือจากกระบวนการชงกาแฟส่วนหนึ่งนั้นคือ เมล็ดกาแฟบดที่ผ่านขั้นตอนการชงหรือกลั่น ที่เราเรียกว่า กากกาแฟ กลายเป็นอีกหนึ่งขยะที่มีปริมาณมากตามปริมาณการดื่มกาแฟทั่วโลก ซึ่งได้มีความพยายามอย่างมากจากบริษัทผู้ผลิตเมล็ดกาแฟ ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่มและอีกหลายบริษัทที่ต้องการนำหลักการ Zero waste เข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ โดยสำหรับร้านอาหารและเครื่องดื่มนั้น การลดปริมาณการใช้เมล็ดกาแฟเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เพราะเนื่องจากปริมาณของการใช้เมล็ดกาแฟนั้นจะส่งผลต่อคุณภาพของเครื่องดื่มกาแฟด้วย แต่เราก็สามารถนำกากกาแฟเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ หรือ การนำมารีไซเคิลนั่นเอง

การรีไซเคิลกากกาแฟนั้นทำได้มากมายหลายรูปแบบ เช่น การนำมาทำเป็นปุ๋ยไว้สำหรับปลูกต้นไม้ นำมาย้อมผ้าแบบธรรมชาติ ใช้ขัดหม้อและกระทะ นำมาทำเทียนไข ทำเครื่องสำอางค์ เช่น สบู่ มาสก์พอกหน้า สครับขัดผิว ใช้ลบรอยคล้ำใต้ตา ใช้อาบน้ำสุนัขไล่เห็บหมัด ใช้กำจัดกลิ่นในท่อน้ำ ใส่ในรองเท้าเพื่อดูดกลิ่น รวมถึงยังมีการนำกากกาแฟมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น แก้วกาแฟที่ทำจากกากกาแฟ ที่รองจานหรือที่รองแก้วน้ำ ซึ่งจะมีความแข็งแรง ทนทาน ไม่แตกง่าย และที่สำคัญย่อยสลายง่ายอีกด้วย ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ในประเทศไทย คือแบรนด์ Nespresso ที่มีการรีไซเคิลสินค้าที่ถูกใช้งานหรือบริโภคแล้ว ซึ่งกาแฟของ Nespresso นั้นอยู่ในรูปแบบของแคปซูล การรีไซเคิลแคปซูลกาแฟของ Nespresso นั้น จะสามารถรีไซเคิลได้ทั้งตัวแคปซูลและกากกาแฟ ตัวแคปซูลนั้นทำมาจากอะลูมิเนียม เนื่องจากอะลูมิเนียมถือเป็นวัสดุที่ดีที่สุดเพื่อที่จะเก็บความสดและคุณภาพของกาแฟไว้ และสามารถนำมารีไซเคิลได้หลากหลายหลังการใช้งาน แคปซูลจะถูกแปรรูปกลับไปเป็นอะลูมิเนียมที่สามารถนำกลับไปผลิตสินค้าอย่างอื่นได้ เช่น อะไหล่รถยนต์ จักรยาน คอมพิวเตอร์ หรือกระป๋องน้ำอัดลม หรือแม้กระทั่งนำไปรีไซเคิลกลับมาใช้งานเป็นแคปซูลกาแฟอีกครั้ง ส่วนกากกาแฟจะถูกนำไปทำปุ๋ยเพื่อเพิ่มสารอาหารให้พืชต่างๆ เนื่องจากกากกาแฟนั้นมีไนโตรเจนสูงซึ่งเป็นผลดีกับผักใบ รวมถึงนำไปผลิตพลังงานสีเขียวอื่นๆ

ไม่เพียงแค่บริษัทที่ทำการผลิตหรือจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกาแฟเท่านั้นที่มีส่วนร่วมในการช่วยลดและรีไซเคิลขยะที่เกิดขึ้นจากการบริโภคกาแฟ แต่ยังคงมีองค์กรและบริษัทอื่นๆ ที่มีส่วนสำคัญในการช่วยลดและรีไซเคิลขยะที่เกิดจากการบริโภคกาแฟ เช่น Bio-bean บริษัทที่ทำเกี่ยวกับการรีไซเคิลกากกาแฟจากสหราชอาณาจักร โดยที่ Bio-bean ได้ทำการรีไซเคิลกากกาแฟให้สามารถกลายเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพขั้นสูง เม็ดชีวมวลและไบโอดีเซล รวมถึงเชื้อเพลิงแข็งที่ใช้ในครัวเรือนและอุตสาหกรรม เช่น ฟืน, ถ่านหิน และหากนำกากกาแฟที่ถูกรีไซเคิลมาใช้งานแทนเชื้อเพลิงที่ใช้คาร์บอนอื่นๆ ก็จะช่วยลดการปล่อยมลพิษลง 80% หากเทียบกับการส่งไปกำจัดโดยวิธีฝังกลบ

กลุ่มบริษัท ปตท. ก็เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่ให้สำคัญในการจัดการขยะตามหลัก Zero Waste เน้นการลดปริมาณขยะ เพิ่มการ Reuse และ Recycle เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ หรือ ขยะทุกชิ้นสามารถใช้งานได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการกำจัดขยะ โดยกลุ่มบริษัท ปตท. ได้ใช้ความรู้และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าเข้ามาเป็นส่วนช่วยในการจัดการขยะเหล่านี้ รวมถึงร้าน คาเฟ่ อเมซอน Café Amazon ซึ่งเป็นร้านกาแฟที่อยู่ในภายใต้การบริหารของกลุ่มบริษัท ปตท. ก็ได้เข้ามามีบทบาทในการช่วยลดปริมาณขยะที่เกิดจากการบริโภคกาแฟเช่นกัน โดยทางร้านได้มีการจัดแคมเปญรณรงค์ลดการใช้พลาสติก เช่น การลดการใช้ถุงพลาสติก, จัดจำหน่ายถุงผ้าและแก้วน้ำที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ รวมถึงการใช้แก้วสำหรับใส่เครื่องดื่มร้อนที่เรียกว่า Amazon Bio Cup ซึ่งเป็นแก้วร้อนที่สามารถย่อยสลายได้ 100% และในส่วนของแก้วที่ใส่เครื่องดื่มเย็นและหลอดนั้นก็ทำมาจากเม็ดพลาสติกชีวภาพซึ่งเป็นพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้จากการร่วมมือกับบริษัทในเครืออย่าง บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ช่วยพัฒนาขึ้น , มอบส่วนลดให้แก่ลูกค้าเมื่อนำแก้วส่วนตัวมาใช้บริการที่ร้าน และเมื่อเร็วๆนี้ ก็ได้มีแคมเปญใหม่ คือ การแจกแก้วรียูส เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำแก้วของทางร้าน กลับมาใช้ซ้ำอีกถึง 30 ครั้ง เพื่อเป็นการลดปริมาณการใช้แก้วพลาสติกแบบครั้งเดียวแล้วทิ้งได้จำนวนมหาศาล ทำให้ร้านกาแฟ คาเฟ่ อเมซอนกลายเป็นอีกหนึ่งร้านกาแฟที่มีบทบาทความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ตามที่ทางกลุ่มบริษัท ปตท. ได้ตั้งเป้าหมายไว้

อ้างอิง