เมื่อชั้นบรรยากาศโลกบางลง

จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร environmental research letters ฉบับเดือนพฤษภาคมปี 2021 ของ Petr Pisoft และคณะพบว่าการหดตัวของชั้นบรรยากาศสตาร์โทสเฟียร์หดตัวลง 400 เมตร นับจากปี 2523 ถึงปี 2561 และคาดการณ์ว่าการหดตัวจะเกิดขึ้นถึง 1800เมตร ในปี 2623 หากการอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเฉพาะ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ยังมีอัตราเท่าปัจจุบัน

ชั้นบรรยากาศของโลกแบ่งเป็นทั้งหมด 5 ชั้น ชั้นแรกคือชั้นโทรโปสเฟียร์ อยู่ในระยะ 20 กิโลเมตรแรกจากพื้น ผิวโลก เป็นชั้นที่เราอยู่อาศัย ถัดไปคือชั้นสตาร์โทสเฟียร์อยู่ในระยะตั้งแต่ 20-60 กิโลเมตรเหนือพื้นโลก ซึ่งมีชั้นโอโซน ช่วยกรองรังสีอัลตราไวโอเลต หลังจากนั้นเป็นชั้นมีโซสเฟียร์ เทอร์โมสเฟียร์ และ เอกโซสเฟียร์ตามลำดับ

การบางตัวลงของชั้นสตาร์โทสเฟียร์ทำให้เกิดการกรองรังสีอัลตราไวโอเลตก่อนจะตกกระทบพื้นโลกและเปลี่ยน เป็นพลังงานความร้อนในชั้นโทรโปสเฟียร์ที่เราอาศัยอยู่น้อยลง นอกจากนี้ยังมีผลกระทบต่อสัญญาณดาวเทียม คลื่นวิทยุ คลื่นที่ใช้ในระบบนำทางGPS ที่เดินทางผ่านชั้นบรรยากาศนี้อีกด้วย

ก๊าซเรือนกระจกโดยเฉพาะคาร์บอนไดออกไซด์ดูดกลืนรังสีอินฟาเรดที่จะสะท้อนกลับออกไปยังบรรยากาศ จึงกักความร้อนไว้เหนือผิวโลกในชั้นบรรยากาศโทรโปสเฟียร์ เมื่ออากาศในชั้นโทรโปสเฟียร์ร้อนก็จะขยายตัวดันขอบเขต ของชั้นสตาร์โทสเฟียร์ให้แคบลง

ก๊าซชนิดเดียวกันทำงานไม่เหมือนกันเมื่ออยู่ในสภาวะที่แตกต่างกัน เช่น ความเข้มข้นที่เปลี่ยนไป หรืออยู่ภาย ต้แรงดันที่ต่างกัน ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เมื่ออยู่ในชั้นบรรยากาศสตาร์โทสเฟียร์ที่มีอากาศอยู่บางเบา กลับทำให้อากาศในชั้นนี้เย็นตัวและหดตัวแคบลงไปอีก

กลุ่ม ปตท. ก็ตระหนักถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากก๊าซเรือนกระจกเช่นกัน จึงมีเป้าหมายที่จะลดปริมาณการปล่อย แก๊สเรือนกระจกจากการดำเนินธุรกิจในกลุ่ม ปตท. ลง โดยในปี 2563 กำหนดเป้าหมายว่าจะปล่อยก๊าซเรือนกระจก ไม่เกิน 40.2 ล้านตัน (เมื่อเทียบเท่ากับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์) ผลปรากฎว่าสามารถทำได้ดีกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยปล่อยก๊าซเรือนกระจำทางตรงและทางอ้อม 30.2 ล้านตันคาร์บอนได้ออกไซด์เทียบเท่า ทาง ปตท. ตั้งเป้าหมายต่อไป ว่าจะลดการปล่อยแก๊ซเรือนกระจกให้ได้มากกว่า 20% ภายในปี 2573 ผ่านแผน PTT greeen & clean strategy โดยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินธุรกิจเดิม และเพิ่มผลิตภัณฑ์/ วิธีการดำเนินธุรกิจใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง เช่น ไบโอดีเซล พลังงานสะอาดจากลม น้ำ และแสงอาทิตย์ เป็นต้น

ที่มา: https://www.facebook.com/CareShareAndRespect/posts/4019957068116662