สถานการณ์ Climate change

Climate Change คือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งหมายถึง การที่สภาพอากาศหรืออุณหภูมิของพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือเปลี่ยนแปลงไปจากที่ควรจะเป็น โดยเราจะทำการคาดคะเนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยการอ้างอิงจากลักษณะอากาศเฉลี่ย (average weather) รวมถึงลักษณะทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับอากาศ เช่น อุณหภูมิ ฝน ลม เป็นต้น ซึ่งความหมายที่ใช้ในคณะกรรมการระหว่างรัฐบาล ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ IPCC (Intergovernmental Panel on Climate Change) การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ คือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไม่ว่าจะเนื่องมาจาก ความผันแปรตามธรรมชาติ หรือกิจกรรมของมนุษย์

สาเหตุที่ทำให้เกิด Climate Change คือ ก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gases) ซึ่งก๊าซเรือนกระจกประกอบไปด้วย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซมีเทน ก๊าซไนตรัสออกไซด์ กลุ่มก๊าซฟลูออริเนต และ โอโซนบนภาคพื้นดิน ซึ่งก๊าซเรือนกระจกเหล่านี้เกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์หรือเกิดขึ้นจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น โรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรมทั่วไปและโรงงานอุตสาหกรรมภาคการผลิตต่างๆ การตัดไม้ทำลายป่า หรือแม้กระทั่งการทำปศุสัตว์เชิงอุตสาหกรรม โดยที่โรงงานอุตสาหกรรมและภาคการผลิตถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด ในส่วนของการทำปศุสัตว์เชิงอุตสาหกรรมนั้นมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ธรรมชาติที่นำไปใช้ในทำการปศุสัตว์ การขนส่งที่ใช้ในภาคการปศุสัตว์ และการใช้ปุ๋ยที่ส่วนผสมของไนโตรเจนก็ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกด้วยเช่นกัน และการตัดไม้ทำลายป่าเองก็นับเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม เนื่องจากโดยปกติแล้วป่าช่วยควบคุมสภาพภูมิอากาศ อุณหภูมิและความชื้นในเขตนั้นๆ และป่าฝนเขตร้อนมีคาร์บอนไดออกไซด์กักเก็บอยู่ครึ่งหนึ่งของคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีอยู่ในพรรณพืชทั่วโลก เมื่อมีการเผาป่าไม้ จะทำให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณมหาศาลถูกปล่อยออกสู่บรรยากาศโลก

Climate Change ก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ทั่วโลกเนื่องจากเมื่อมีการแปลงเปลี่ยนทางสภาพภูมิอากาศ ก็จะส่งผลให้สภาพแวดล้อมนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน โดย Climate Change นั้นมักจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง และต่อเนื่องกันราวกับห่วงโซ่ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มากขึ้นจนส่งผลกระทบต่อชั้นบรรยากาศและทำลายชั้นโอโซนที่ช่วยป้องกันรังสี UV และแสงแดดที่ส่องลงมายังพื้นผิวโลก ทำให้โลกมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น และอุณหภูมิที่สูงขึ้นนั้นส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อโลก ธรรมชาติและสิ่งมีชีวิต เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นทำลายสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ เช่น น้ำแข็งที่ขั้วโลกที่ละลายเร็วขึ้น ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของคนและสัตว์ในบริเวณขั้วโลกหรือบริเวณที่น้ำแข็งละลาย และน้ำแข็งที่ละลายยังทำให้น้ำในมหาสมุทรมีปริมาณมากขึ้น โดยที่นักวิทยาศาสตร์หลายคนนั้นคาดการว่าในอนาคตอาจมีพื้นที่บางแห่งหรือเมืองบางเมืองจมลงใต้มหาสมุทรเนื่องจากปริมาณน้ำที่สูงขึ้น อีกทั้งอุณหภูมิที่สูงขึ้นยังส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตโดยตรงอีกด้วย เช่น อากาศร้อนขึ้นจนทำให้ผู้คนไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่อย่างเป็นปกติได้ สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติขาดแหล่งน้ำและอาหารในการดำรงชีวิต ซึ่งส่งผลอย่างมากต่อวิถีชีวิตของสัตว์ป่าเหล่านั้น ทำให้มีประชากรสัตว์ป่าลดลงหรืออาจเกิดการสูญพันธุ์ได้ในอนาคต หรือ พืชพรรณที่ไม่สามารถเจริญเติบโตภายใต้สภาพภูมิอากาศที่เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ ยังไม่รวมถึงภัยธรรมชาติต่างๆที่เกิดขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เช่น เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติในฤดูที่แตกต่างไปจากเดิม ความรุนแรงของภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เพิ่มมากขึ้น หรือแม้กระทั่งการเกิดปรากฏการทางธรรมชาติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในพื้นที่นั้น

สถานการณ์ Climate Change ในปัจจุบันยังคงถือว่ามีแนวโน้มที่ไม่ดีขึ้น แม้ว่าจะมีผู้คนและองค์กรต่างๆ ตระหนักถึงปัญหาเกี่ยวกับ Climate Change แล้วก็ตาม เนื่องจากเรายังไม่สามารถลดหรือควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ทำลายชั้นบรรยากาศและชั้นโอโซนได้อย่างจริงจัง และปัจจุบันได้มีองค์กรที่สร้างขึ้นมาเพื่อรณรงค์ให้เห็นถึงความสำคัญในการอนุรักษ์และตระหนักถึงการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่เรายังคงต้องกระตุ้นให้ภาคส่วนองค์กรและอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงชุมชนหันมาตระหนักและเข้าใจถึงความสำคัญในการดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) เองก็เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมแล้วมีความตระหนักถึงปัญหาเกี่ยวกับเรื่อง Climate Change จึงได้มีการจัดการบรรยายในหัวข้อ “เสริมสร้างความตระหนักรู้ และความรับผิดชอบร่วมกันต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อการบูรณาการอย่างยั่งยืน (กรณี ศึกษา-โรคอุบัติใหม่)” ให้แก่ผู้บริหาร พนักงาน อีกทั้งยังได้รับความสนใจจากคู่ค้า และลูกค้า เข้าร่วมรับฟังการบรรยายครั้งนี้อีกด้วย เพื่อให้ผู้เข้าร่วมรับฟังทุกท่านมีความตระหนักรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับ Climate Change โดยการเผยแพร่องค์ความรู้ หลักการ แนวคิด และแนวปฏิบัติที่สำคัญ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ สามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ใน การปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง IRPC ยังมีการพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชน โดยการนำพลังงานทดแทนมาใช้และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นอีกหนึ่งในแนวทางสำคัญในการช่วยลดก๊าซเรือนกระจกที่เป็นตัวการสำคัญให้ลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก (Climate Change) เช่น การผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติสามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้ เป็นต้น ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นภาคส่วนใดๆ ก็ตามแต่ ล้วนเป็นส่วนสำคัญในการช่วยเหลือและดูแลรักษาโลกใบนี้ เพื่อให้โลกนี้สามารถดำรงอยู่ได้

ที่มา:
https://www.greenpeace.or.th
https://www.greenpeace.org
https://www.bot.or.th
https://www.spcg.co.th
https://www.ipcc.ch
https://www.scg.com
https://news.thaipbs.or.th
https://ngthai.com/science
https://www.posttoday.com
https://www.banmuang.co.th